การเดินทางของเจ้าชายน้อย สู่ Melayu Living ห้องรับแขกนักสร้างสรรค์แห่ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ กับบทเรียนการพัฒนาที่ยั่งยืน
November 7, 2023
![](/sites/g/files/zskgke326/files/2023-11/malayu_living-02_1.png)
ในยามบ่ายวันหนึ่งที่ดาว B612 เจ้าชายน้อยได้รับห่อของขวัญขนาดใหญ่ พร้อมการ์ดใบเล็ก
การ์ดใบนั้นจ่าหน้าซองว่า “ขอเชิญมาเป็นเกียรติในงาน 80 ปีเจ้าชายน้อย” มีข้อความข้างในสั้น ๆ ว่า “พวกเราส่ง ‘เรือกอและ’ มาให้ หวังว่าจะได้สร้างมิตรภาพกับท่าน โปรดนั่งเรือลำนี้มาเยี่ยมเยือน Melayu Living ห้องรับแขกของเราในเมืองโบราณเล็ก ๆ ชื่อปัตตานี”
เจ้าชายน้อยแกะห่อของขวัญออกมา ข้างในนั้นบรรจุเรือไม้ที่มีลวดลายแสบสันงดงามแปลกตา เจ้าชายน้อยเรียนรู้จากหมาจิ้งจอกว่ามิตรภาพเป็นสิ่งสำคัญ หมาจิ้งจอกเคยกล่าวกับเขาว่า “มนุษย์เขาไม่มีเวลาจะรู้จักสิ่งใดทั้งสิ้น เขาซื้อของสำเร็จรูปจากพ่อค้า แต่เนื่องจากพ่อค้าขายเพื่อนยังไม่ปรากฎ เธอจึงต้องสร้างความสัมพันธ์” ดังนั้นมนุษย์ที่รู้จักความสำคัญของมิตรภาพก็คู่ควรก็แก่การสร้างความสัมพันธ์
เจ้าชายน้อยออกเดินทางมาตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยเรือไม้ ที่อธิบายไว้ในการ์ดว่าเป็นเรือที่เรียกว่า ‘เรือกอและ’ เจ้าชายน้อยเดินทางไม่นานนักเจ้าเรือกอและก็นำทางเขามาสู่ Melayu Living ห้องรับแขก ซึ่งอยู่ในบ้านเก่าแก่ ย่านชุมชนจีนโบราณ ละแวกใกล้เคียงกับศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเนี่ยว ในเมืองปัตตานี
![](/sites/g/files/zskgke326/files/2023-11/melayu_06_0.png)
เขาพบกับผู้ชายสองคนที่มีท่าทีเป็นมิตร
“ชื่อ ราชิต ระเด่นอาหมัด รักษาการประธานกลุ่ม Melayu Living และมีอาชีพเป็นเป็น Design Director” ผู้ชายคนแรกแนะนำตัว
“ชื่อ ฮาดีย์ หะมิดง ทำงานในภาคส่วน NGO มาตลอด เป็นหนึ่งในสมาชิกของ Melayu Living ครับ” สิ้นเสียงของคนแรก ชายหนุ่มอีกคนก็แนะนำตัวบ้าง
พวกเขาทั้งสองคนแนะนำว่าห้องรับแขกที่ชื่อว่า Melayu Living เป็นเสมือนห้องทดลอง ของคนทำงานสร้างสรรค์ ที่ต้องการสร้างสรรค์ไอเดียดี ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องติดกรอบเดิม ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับพื้นที่ที่ตัวเองอยู่
หลังจากที่พูดคุยกันเล็กน้อย ราชิตก็เชิญชวนเจ้าชายน้อยไปดื่มน้ำชายามเช้าของปัตตานี ที่เรียกว่า ‘แตออ’ ราชิตอธิบายว่ามันเป็นเสมือนพิธีรีตองที่เราใช้ต้อนรับแขกเมื่อมาเยือนปัตตานี
“พิธีรีตองเป็นสิ่งที่ทำให้วันหนึ่งมีความหมายต่างจากวันอื่น ๆ” หมาจิ้งจอกเคยอธิบายกับเจ้าชายน้อยไว้แบบนั้น
![](/sites/g/files/zskgke326/files/2023-11/melayu_03.png)
ราชิตเล่าให้เจ้าชายน้อยฟังว่าเขาเริ่มก่อตั้ง Meleyu Living และจัดงานที่ชื่อว่า Pattani Decoded ครั้งที่ 1 Decode หมายถึง การถอดรหัส Pattani Decoded ก็คือการถอดรหัสพื้นที่ปัตตานี โดยกลุ่มคนทำงานสร้างสรรค์ซึ่งมีอยู่ในปัตตานีมากมาย
Pattani Decoded ครั้งที่ 1 จึงเหมือนกับการนำพลังสร้างสรรค์ของศิลปินคนทำงานสร้างสรรค์ในชุมชนออกมาเพื่อที่จะพัฒนาปัตตานีไปด้วยกันทั้งทางศิลปะ การทำเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมของหลายภาคส่วนภายในท้องถิ่น
“พลังของคนในท้องถิ่นที่ร่วมกันใช้ความคิดสร้างสรรค์พัฒนาถิ่นที่อยู่ของตนเองเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อที่เมืองจะได้โตด้วยตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่เพียงเติบโตตามโครงสร้างนโยบายของส่วนกลางอย่างเดียว อยากทำให้รู้ว่าปัตตานีที่แท้จริงมีความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมอย่างไร มีมิตรภาพ มีพลังของเยาวชนที่มาช่วยงานอาสาสมัครในงาน Pattani Decoded จำนวนมาก พวกเขามีส่วนร่วมทั้งทำ ทั้งคิด ทั้งนำเสนอในกระบวนการต่าง ๆ นี่คือการสร้างพลังงานดี ๆ ให้เกิดขึ้นในชุมชน เป็นแรงขยับเล็ก ๆ ที่สำคัญ” ราชิตเล่าถึงความสำคัญของ Pattani Decoded ครั้งที่ 1 ด้วยความตื้นตันใจ
การทำงานของเหล่านักสร้างสรรค์ที่ Melayu Living คือพลังเล็ก ๆ ที่ทรงพลังในการรังสรรค์เมืองที่ปลอดภัย ซึ่งตรงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) อันเป็นเป้าหมายของดาวโลก ที่ต้องการสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนและรอบด้านโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
การทำงานของ Melayu Living ในเมืองเก่าแก่ที่ชื่อว่าปัตตานีก็กำลังเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นระดับโลกในการพัฒนาที่ยั่งยืน สิ่งที่ Melayu Living ทำตรงกับเป้าหมายที่ 11 ที่ระบุถึงการทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ มีความครอบคลุม ปลอดภัย ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง และยั่งยืน รวมทั้งเป้าหมายที่ 16 ที่ระบุถึงการส่งเสริมสังคมที่สงบสุขและครอบคลุม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ให้ทุกคนเข้าถึงความยุติธรรม
![](/sites/g/files/zskgke326/files/2023-11/melayu_04.png)
จากนั้นทั้งสองคนก็พาเจ้าชายน้อยเดินย่านเมืองเก่าของปัตตานี ผ่านถนนอารูเนาะ ปัตตานีภิรมย์ ฤาดี
“หลังจากได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดีจาก Patani Decoded ครั้งที่ 1 ครั้งนี้เราได้ขยายความร่วมมือ ขยายมิตรภาพไปยังนอกพื้นที่ปัตตานีและ 3 จังหวัดชายแดนมากขึ้น” ราชิตเล่าระหว่างที่เดินเล่น “เราได้เชิญเพื่อน ๆ นักเขียน นักออกแบบ ศิลปินจากกรุงเทพฯ มาช่วยกันวางแผนงาน เมื่อเกิด Movement (การขับเคลื่อน) ทั้งจากภายในพื้นที่ และการขยาย Movement จากเพื่อน ๆ ต่างท้องถิ่น ทำให้งานออกมามีมิติมากขึ้น และที่สำคัญหัวใจหลักของ Pattani Decoded ครั้งที่ 2 คือ ไม่ใช่แค่การออกแบบงานสร้างสรรค์ หรือเฉพาะการทำเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แต่คือการนำโจทย์ของสังคมมาออกแบบเพื่อเข้าใจและแก้ปัญหา”
ฮาดีย์ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักของงาน Patani Decoded ครั้งที่ 2 อธิบายถึงแนวคิดหลักของการจัดงานครั้งนี้ว่า ปัตตานีมีแหล่งผลิต ‘เกลือหวาน’ ที่ดีมาก เป็นแหล่งผลิตเกลือแหล่งเดียวในคาบสมุทรมาลายู ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานสามารถย้อนไปได้ถึง 400 ปี
เกลือหวานเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ส่งออกทำการค้าอย่างหนึ่งของปัตตานีตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปบ้านเมืองขยายมากขึ้นที่ทำนาเกลือลดลง ประกอบกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกลือหวานมีปริมาณลดน้อยลง พวกเขาจึงนำเกลือหวาน ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีความสำคัญกับพื้นที่ทั้งทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การค้า และความมั่นคงทางอาหาร มาใช้เป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนงานปัตตานี Decoded ครั้งที่ 2 เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำความเข้าใจ รวมทั้งหาวิธีการสร้างสรรค์ในการร่วมกันทำความเข้าใจและพัฒนาเกลือหวานของปัตตานี
![](/sites/g/files/zskgke326/files/2023-11/melayu_07.png)
“กิจกรรมแรกของ Patani Decoded ครั้งที่ 2 ที่ทำคือการเดินสำรวจสายน้ำ” ฮาดีย์เล่าต่อ “การเดินทางของเกลือเนี่ยมันไม่ได้เกิดขึ้นในทะเลอย่างเดียว มันมาจากคูคลองที่อยู่ในเมือง มีกลุ่มที่ชื่อว่ากลุ่ม Trash Hero Pattani ที่เดินเก็บขยะทั้งเมือง เขาสนใจมาลองสำรวจคลองที่วิ่งผ่านเขตตลาดสดในเมืองเพื่อดูว่าน้ำพวกนี้ที่มันไหลไปสู่ทะเลแล้วกลายเป็นเกลือ มันสะอาดหรือเปล่า พอได้ไปเดินสำรวจ เก็บตัวอย่างน้ำ ดูความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ที่อยู่ริมคลองกัน ก็โชคดีที่พบว่ามันก็ยังสะอาด เพียงแต่ว่ามันดูสีดำเพราะว่าตะกอนที่มันลงไป”
“งานมันมีมิติที่ซับซ้อนแล้วก็ครอบคลุมมากขึ้น เราไม่ได้เพียงพูดเรื่องออกแบบแล้ว เราพูดเรื่องระบบนิเวศด้วย เราพูดเรื่องการใช้น้ำยังไง การใช้ทะเลยังไง เราพูดเรื่องเมืองที่มันขยายไป เราพูดเรื่องความภาคภูมิใจ”
การดำเนินงาน Patani Decoded ครั้งที่ 2 จึงยังคงมีความสอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนเช่นกัน โดยตรงกับ SDGs เป้าหมายที่ 14 คือการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเลและทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งเป้าหมายที่ 15 หยุดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
จากนั้นก็มีนิทรรศการ The Old Man and the Sea Salt
Melayu Living ไปคุยกับคนทำนาเกลือ ฟังปัญหาในเชิงโครงสร้าง รวมทั้งปัญหาด้านดินฟ้าอากาศที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศที่คนทำนาเกลือเจอ ซึ่งการจัดนิทรรศการก็ทำให้เกิดความร่วมมือและการเข้าใจปัญหาร่วมกันระหว่างคนทำนาเกลือ คนในชุมชน เทศบาล หน่วยงานในท้องถิ่น
การทำงานนี้นั้นยังตรงกับ SDGs เป้าหมายที่ 13 ที่ระบุถึงปฏิบัติการเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ การจัด Patani Decoded ทั้ง 2 ครั้งยังตรงกับ SDGs เป้าหมายที่ 3 คือการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัยด้วย
การเดินชมเมืองพร้อมกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับ Patani Decoded ครั้งที่ 2 ทำให้เจ้าชายน้อยรู้สึกดีมาก และเริ่มหิวอีกรอบแล้วเช่นกัน พอดีกับที่ฮาดีย์บอกว่า จะพาเขาไปนั่งเรือกอและของพวกผู้ใหญ่ เพื่อที่จะล่องเรือไปดูคนทำนาเกลือ ทำเกลือหวาน ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวปัตตานีอย่างที่เล่าให้เจ้าชายน้อยฟังไป
เจ้าชายน้อยตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเห็นของจริง เมื่อล่องเรือไปถึงนาเกลือ ฮาดีย์ก็เล่าว่าเกลือหวานพวกนี้เป็นวัตถุดิบส่วนหนึ่งของน้ำบูดู ซึ่งฮาดีย์เอาบูดูมาเคี่ยวกับเกลือหวาน แล้วทำข้าวยำ อันเป็นอาหารท้องถิ่นให้เจ้าชายน้อยได้ลิ้มรสในวันนี้
“ในการทำ Pattani Decoded ช่วงแรก ๆ ด้วยความที่สถานการณ์ในปัตาตานีค่อนข้างตึงเครียด พวกเราเป็นมุสลิมที่มีสถานที่ทำงานในชุมชนจีนก็มีความหวาดระแวงในชุมชนอยู่เหมือนกัน พวกเราจึงต้องพิสูจน์ความจริงใจ และสร้างมิตรภาพ” ราชิตเล่าระหว่างมื้ออาหารเที่ยง
“พี่ป้อง พันธุ์ฤทธิ์ ที่เป็นอดีตประธานชุมชนหัวตลาดของชุมชนจีนในพื้นที่ เขาบอกว่า ไอ้พวกนี้ตั้งกลุ่มมาเนี่ย คนในพื้นที่คัดค้านมาก ทุกคนเข้ามาหาแกแล้วก็พยายามที่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีพวกมุสลิมมาอยู่ในพื้นที่ได้ มันต้องทำอะไรที่ไม่ดีแน่เลย มันเอาเงินมาจากไหนมาทำกิจกรรมแบบนี้”
![](/sites/g/files/zskgke326/files/2023-11/melayu_08.png)
“แกเล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นมันมีความระแวงแบบนี้เยอะมาก ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว แต่สุดท้ายตอนที่เราจะจัด Pattani Decoded ครั้งที่ 1 ที่เราเริ่มเคาะประตู เริ่มคุยกับชาวบ้านมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เหมือนกับทุกคนปลดล็อก ว่า เฮ้ย ไอ้พวกนี้มันไม่ได้มีอะไรแอบแฝงนี่หว่า มันทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจจริง ๆ”
มิตรภาพสำคัญมากสำหรับพวกเขา นอกจากคนในพื้นที่ คนต่างท้องถิ่น ยังมีคนที่มาจากดินแดนที่ไกลออกไปเช่นเดียวกับเจ้าชายน้อย
Lulu ซึ่งเป็นศิลปิน Mural Painting จากญี่ปุ่นที่เวียนไปเขียนภาพมาทั่วโลก ก็มาเขียนงานที่ปัตตานี มาเข้าใจท้องถิ่น ไม่ตัดสินปัตตานีแค่ภาพความรุนแรงจากข่าวทั่วไป นำมุมมองของตนเองมาแลกเปลี่ยนกับคนในท้องถิ่นผ่านงานศิลปะ
นอกจากนี้ประมาณเมื่อ 5 ปีที่แล้วมีเป็นนักท่องเที่ยวชื่อ Ryan Anderson ที่ตระเวนถ่ายสารคดีในพื้นที่เอเชีย ทั้งไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เขาสนใจห้องรับแขกแห่งนี้ Melayu Living ก็เลยจัดทำบรรยากาศของพื้นที่ให้เป็นเหมือนโรงหนังเล็ก ๆ โดยตั้งชื่อว่า Melayu Rama แล้วก็ชวน Brian มาฉายหนังให้คนในพื้นที่ได้ดู เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและบทสนทนาระหว่างกัน แล้วเขาก็นำภาพพวกนี้เอาไปเผยแพร่ต่อที่อื่นที่เขาจะเดินทางต่อไป
การดำเนินกิจกรรมในชุมชนเล็ก ๆ ก็สามารถสร้างความร่วมมือระดับระหว่างประเทศได้
การสร้างมิตรภาพและความร่วมมือระดับระหว่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้าอกเข้าใจในเพื่อนมนุษย์ร่วมกัน เป็นการร่วมมือเพื่อสร้างความเข้มแข็งในการร่วมมือแบบไร้พรมแดนในรูปแบบหนึ่ง ประจวบเหมาะพอดีกับเป้าหมายที่ 17 ของ SDGs ซึ่งคือ เสริมความเข้มแข็งให้แก่กลไกการดำเนินงานและฟื้นฟูสภาพหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน
![](/sites/g/files/zskgke326/files/2023-11/melayu_05.png)
หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ มีงานที่สำคัญที่รอเจ้าชายน้อยอยู่ นั่นก็คือการเรียนภาษายาวีกับ อาจารย์แวมายิ ปารามัล เพื่อให้เขาได้บอกเล่าการเดินทางที่ผ่านมาของตนเองเป็นภาษายาวี
อาจารย์แวมายิ ปารามัล ได้ถ่ายทอดการเดินทางที่เจ้าชายน้อยได้ไปเรียนรู้ยังดาวต่าง ๆ เป็นหนังสือแปล ครบรอบ 80 ปี เจ้าชายน้อย ฉบับภาษายาวี ซึ่งเป็นภาษาที่สำคัญมากและคู่ควรจะอนุรักษ์ไว้ของพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เจ้าชายน้อยดีใจที่ได้มีส่วนร่วมกับงานดังกล่าว เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องจากลาดินแดนปัตตานี เขาก็กอดลาทุกคน
ก่อนที่เจ้าชายน้อยจะไป เขาถามราชิตและฮาดีย์ว่าฝันเห็นโลกเป็นแบบไหน
“ไม่ได้มองว่าโลกต้องเป็นแบบไหน เราไม่จำเป็นที่จะต้องไปเป็นคนขับเคลื่อนโลกก็ได้ แต่อะไรที่เราคิดว่ามันดี และเราทำได้ เราก็แค่ลองทำมันดู” ราชิตบอก ก่อนฮาดีย์จะพูดต่อ “อยากให้ทุกอย่างเป็นปกติเป็นธรรมดา ไม่มีกฎหมายหรือมาตราการพิเศษใด ๆ มากดทับวิถีชีวิตของคน โดยเฉพาะคนใน 3 จังหวัดชายแดน”
แท้จริงแล้ว ราชิต ฮาดีย์ และทีม Melayu Living เอง ก็เป็นคนธรรมดาในพื้นที่ ที่อยากเห็นบ้านเกิดของตัวเองพัฒนาไปในทางที่ดี จึงรวมตัวกันและลงมือสร้างความเปลี่ยนแปลง
ไม่ว่าคุณเป็นคนที่ไหน คุณก็สามารถนำทักษะที่ตัวเองมีมาผนึกกำลังกับผู้ร่วมอุดมการณ์ได้เช่นกัน ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำ อย่างที่พวกเขาในชายแดนใต้ทำกันในหลายปีที่ผ่านมา
เมื่อเจ้าชายน้อยกลับถึงดาว B612 ก็พอดีกับมีจดหมายจาก Melayu Living เขียนมาหาเขาว่า
“ขอบคุณมากที่มาสร้างมิตรภาพร่วมกัน เรื่องราวของคุณทั้งหมดที่ถ่ายทอดมาเป็นภาษายาวี ทำให้ภาษายาวีมีชีวิตชีวาขึ้น ทำให้นักสร้างสรรค์ รวมทั้งเยาวชนในท้องถิ่นสนใจและให้ความสำคัญกับภาษาท้องถิ่นของตนเองมากขึ้น”
เจ้าชายน้อยคิดว่าการไป Melayu Living ครั้งนี้ก็เหมือนกับประโยคที่เขาบอกใครต่อใครมาตลอด 80 ปีว่า “สิ่งที่ทำให้ทะเลทรายงดงามนั้น อยู่ตรงที่ว่ามันซ่อนบ่อน้ำไว้ที่ใดที่หนึ่ง” มิตรภาพและพลังงานสร้างสรรค์ที่คนในเมืองปัตตานีได้รับจาก Melayu Living และ Melayu Living ก็ได้รับสิ่งนั้นจากคนอื่น ๆ เช่นกัน ก็ไม่ต่างจากบ่อน้ำหนึ่งบ่อในปัตตานี และเชื่อว่ายังมีบ่อน้ำอีกหลายแห่งที่จะถูกรังสรรค์ขึ้น
ต่อจากนี้ เหล่าสมาชิกห้องรับแขก Melayu Living ราชิต ฮาดีย์ และคนอื่น ๆ ก็ยังคงขับเคลื่อน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยงานสร้างสรรค์ไปเรื่อย ๆ หวังว่าเราจะเห็น Pattani Decoded และงานอื่น ๆ ดึงเสน่ห์พื้นถิ่นออกมาให้สาธารณชนเห็นอีกมากมาย เห็นแต่ละภาคส่วนจับมือกันทำสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงพื้นที่ไปตลอดกาล
และที่สุดแล้ว อย่างที่ฮาดีย์บอก หวังว่าเห็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กลายเป็นโลกแห่งความธรรมดา ทุกคนอยู่กันได้อย่างปกติสุขตลอดไป
อ้างอิง
หนังสือเจ้าชายน้อย เขียนโดย อองตวน เดอ แซงเตก-ซูเปรี แปลโดย อำพรรณ โอตระกูล ตีพิมพ์ พ.ศ. 2566 สำนักพิมพ์จินด์